วันอังคารที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2559

พ่อขุนศรีอินทราทิตย์

พ่อขุนศรีอินทราทิตย์


พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ เดิมคือ ขุนบางกลางหาว (ชื่อ “ร่วง” ในสิหิงคนิทานว่า รณรงโค แปลว่า พระร่วง นักรบ) เจ้าเมืองบางยาง (เมืองนครไทย) ได้ร่วมกับขุนผาเมือง เจ้าเมืองราด ทำการยึดอำนาจขอม และครองราชย์ในปี พ.ศ. ๑๗๖๒

เรื่องศักราชการยึดอำนาจจากขอม  และการขึ้นครองราชย์นั้นสรุปไม่ได้  มีบางแห่ง (ศจ.ดร.ประเสริฐ ณ นคร)  สรุปว่าครองราชย์ระหว่าง พ.ศ. ๑๗๖๒ -๑๗๘๑ (๑๙ ปี) บางแห่งว่าครองราชย์ราวพ.ศ. ๑๗๖๒ บางแห่งว่าพระองค์ทรงตั้งอาณาจักรสยามที่เมืองสุโขทัยทำการขับไล่ขอมเมื่อ พ.ศ. ๑๗๖๒ บางแห่งระบุว่าปีครองราชย์ประมาณ พ.ศ. ๑๘๐๐ ทำให้เกิดปัญหาเวลาการครองราชย์ของขุนบานเมืองต่อไป

พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ มีมเหสีพระนามว่า 
“นางเสือง” (เป็นพระธิดาของพ่อขุนศรีนาวนำถุม) ทรงมีพระโอรสธิดาราม ๕ องค์ เป็นโอรส ๓ องค์ ธิดา ๒ องค์ โอรสองค์ใหญ่ไม่ปรากฏพระนามด้วยสิ้นพระชนม์เสียตั้งแต่ยังเยาว์วัย องค์ที่สอง คือ บานเมืองหรือปาลราช องค์ที่สามเดิมไม่มีพระนาม แต่พอไปชนช้างชนะขุนสามชนเจ้าเมืองฉอด (เมืองตาก) มีความชอบจึงประทานชื่อ (หรือชื่อตามยศศักดิ์) ว่าพระรามคำแหง
 ในหนังสืออื่น เรียก รามราช ส่วนธิดาอีก ๒ คนไม่ปรากฏนาม 

พระร่วง (ฝีพระหัตถ์ ร. ๖)
แผนที่เิมืองสุโขทัย (เก่า)

การขึ้นครองเมืองสุโขทัยของพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ (ขุนบางกลางหาว) นั้นแม้สามารถ ขับไล่ขอมสบาดโขลญลำพงออกไปจากเขตเมืองได้ ก็ยังทำให้พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ รู้สึกกังวลต่อฐานอำนาจเดิมที่พ่อขุนศรีนาวนำถุมมีอยู่แต่เดิม (ไม่ค่อยจะมั่นคง) แม้ขุนผาเมืองจะไม่ครองเมืองสุโขทัยแทนพระบิดา หรือเห็นว่านางเสือง  เป็นมเหสีของขุนบางกลางหาวอยู่แล้วก็ตามพ่อขุนผาเมืองก็ยังระแวงว่ากำลังจากอาณาจักรขอมนั้นจะยกเข้ามาทำสงครามชิงเมืองคืน ขุนผาเมืองจึงกลับไปครองเมืองราดเพื่อให้มเหสี คือนางสิขรมหาเทวีซึ่งเป็นพระธิดากษัตริย์ขอม นั้นเป็นผู้เชื่อมไมตรีกับพระบิดาคือ พระเจ้าเจ้าสุริยวรมันที่ ๗ ดังนั้น ขุนผาเมืองจึงให้ขุนบางกลางหาวนั้นรับเอาพระนาม
 “ศรีบดิทรอินทราทิตย์” (กมรเตงอัญศรีอินทราบดินทราทิตย์)   และพระขรรค์ชัยศรีจากขุนผาเมือง มาใช้เป็นการป้องกันเมือง และสร้างความเป็นไมตรีต่ออาณาจักรขอมไว้ก่อน
พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ ขึ้นครองราชย์ที่เมืองสุโขทัยได้ไม่นานประมาณ พ.ศ. ๑๘๐๐-๑๘๐๒  ขุนสามชนเจ้าเมืองฉอดก็แสดงท่าทีจะชิงเมือง โดยยกทัพเข้าจะตีเอาเมืองตาก กำลังของขุนสามชน เมืองฉอดที่ยกทัพมาครั้งนี้ เข้าใจว่าน่าจะมีกำลังของขอมสบาดโขลญลำพงที่พ่ายหนีไปส่วนหนึ่งนั้นสมทบเข้ามาด้วย?


พ่อขุนรามฯ ชนช้างกับขุนสามชน
เมืองสุโขทัย (ฐานพระราชวัง)

ครั้งนั้นพ่อขุนศรีอินทราทิตย์เห็นว่าหากปล่อยให้ขุนสามชนตีได้เมืองตากแล้ว ก็จะเป็นอันตรายกับเมืองสุโขทัย ดังนั้นพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ จึงยกทัพออกจากเมืองสุโขทัยพร้อมกับโอรสคนเล็ก (นามว่าพระรามราช?) ซึ่งมีอายุ ๑๙ พรรษา และได้ติดตามบิดาออกสงครามด้วย
การสู้รบนั้นได้มีการทำยุทธหัตถีกัน ระหว่างขุนศรีอินทราทิตย์กับขุนสามชนและ (พระรามราช?) โอรสองค์นี้ได้เข้าชนช้างช่วยพระบิดาจน มีชัยชนะขุนสามชน ด้วยความกล้าหาญของโอรสองค์นี้ จึงได้รับการเฉลิมพระนามว่า รามกำแหง หรือรามคำแหง

เจดีย์วัดพระมหาธาตุ เมืองสุโขทัย
ระยะแรกนั้นเมืองสุโขทัยได้ทำการขยายอาณาเขตด้วยการทำสงครามกับเมืองต่างๆ ที่ไม่ยอมเป็นไมตรี เนื่องจากเมืองสุโขทัยนั้นเปลี่ยนราชวงศ์ใหม่ ไม่ใช่เชื้อสายราชวงศ์ของขุนศรีนาวนำถุม ผู้ครองเมืองเดิม ขณะนั้นบรรดาเมืองต่างๆ ส่วนใหญ่นิยมที่จะนับถือราชวงศ์ศรีนามนำถุมอยู่  จึงทำให้เมืองนั้น ไม่ยอมอ่อนน้อมยอมขึ้นด้วย จนพ่อขุนต้องออกทำการปราบปรามเมืองต่างๆ ในที่สุด เมืองเหล่านั้นก็ยอมอ่อนน้อม

ในที่สุดเมืองสุโขทัยก็สามารถขยายเขตของอาณาจักรได้กว้างขวาง ทำให้เมืองสุโขทัยสามารถวางรากฐานอาณาจักรมั่นคง และสามารถรวบรวมชนชาติไทยเป็นหนึ่งเดียวกันได้โดยเฉพาะเชื้อพระวงศ์ของขุนศรีนาวนำถุมนั้น ได้อยู่รับราชการกับพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ด้วย  คือ พระยาคำแหงพระราม เป็นพระอนุชาของขุนผาเมือง ซึ่งมีพระโอรสคือ ขุนศรีสัทธา ภายหลังได้ออกบวชในพุทธศาสนาลังกาวงศ์  และได้เป็นสังฆราชเมืองสุโขทัย

พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ สวรรคตปีใดนั้นไม่มีหลักฐาน บางแห่งว่าพ่อขุนศรีอินทราทิตย์สวรรคตราว ปี พ.ศ. ๑๘๒๒ ขุนบานเมืองหรือพญาปาลราชโอรสองค์ที่สองได้ครองเมืองสุโขทัยต่อมา.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น